เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [3. นิกเขปกัณฑ์] ทุกนิกเขปะ จูฬันตรทุกะ
[1090] สภาวธรรมที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นไฉน
ธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง สภาวธรรมนี้ชื่อว่าไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
2. สังขตทุกะ
[1091] สภาวธรรมที่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง เป็นไฉน
สภาวธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่ง ชื่อว่าถูกปัจจัยปรุงแต่ง
[1092] สภาวธรรมที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง เป็นไฉน
สภาวธรรมที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง ชื่อว่าไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง
3. สนิทัสสนทุกะ
[1093] สภาวธรรมที่เห็นได้ เป็นไฉน
รูปายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเห็นได้
[1094] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้ เป็นไฉน
จักขายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ รูปที่
เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้ ซึ่งนับเนื่องในธัมมายตนะ และธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเห็นไม่ได้
4. สัปปฏิฆทุกะ
[1095] สภาวธรรมที่กระทบได้ เป็นไฉน
จักขายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ากระทบได้
[1096] สภาวธรรมที่กระทบไม่ได้ เป็นไฉน
เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ รูปที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้ ซึ่งนับเนื่องใน
ธัมมายตนะ และธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ากระทบไม่ได้
5. รูปีทุกะ
[1097] สภาวธรรมที่เป็นรูป เป็นไฉน
มหาภูตรูป 4 และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป 4 สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นรูป


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :278 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณี [3. นิกเขปกัณฑ์] ทุกนิกเขปะ จูฬันตรทุกะ
[1098] สภาวธรรมที่ไม่เป็นรูป เป็นไฉน
เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ และธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่า
นี้ชื่อว่าไม่เป็นรูป
6. โลกิยทุกะ
[1099] สภาวธรรมที่เป็นโลกิยะ เป็นไฉน
สภาวธรรมที่เป็นกุศล อกุศล และอัพยากฤต ซึ่งเป็นอารมณ์ของอาสวะ เป็น
กามาวจร รูปาวจร และอรูปาวจร ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ สภาวธรรม
เหล่านี้ชื่อว่าเป็นโลกิยะ
[1100] สภาวธรรมที่เป็นโลกุตตระ เป็นไฉน
มรรค ผลของมรรคที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ และธาตุที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นโลกุตตระ
7. เกนจิวิญเญยยทุกะ
[1101] สภาวธรรมที่จิตบางดวงรู้ได้และที่จิตบางดวงรู้ไม่ได้ เป็นไฉน
สภาวธรรมที่จักขุวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
โสตวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่จักขุวิญญาณรู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ฆานวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่จักขุวิญญาณรู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่จักขุวิญญาณรู้ได้แต่กายวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
กายวิญญาณรู้ได้แต่จักขุวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่โสตวิญญาณรู้ได้แต่ฆานวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ฆานวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้
สภาวธรรมที่โสตวิญญาณรู้ได้แต่ชิวหาวิญญาณรู้ไม่ได้ หรือสภาวธรรมที่
ชิวหาวิญญาณรู้ได้แต่โสตวิญญาณรู้ไม่ได้


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 34 หน้า :279 }